หากบ้านของคุณกำลังจะถูกเนรมิตใหม่ด้วยการออกแบบภายในบ้านใหม่ทั้งหมด เราขอแนะนำเลยว่ามาหยุดพักที่นี่ก่อน เพราะบทความนี้เรามีข้อควรรู้ก่อนเริ่มทำการออกแบบบ้านภายในมาฝาก รับรองได้เลยว่าเป็นข้อมูลที่น่าสนใจ และอาจจะเป็นข้อมูลที่คุณนั้นไม่เคยรู้มาก่อนเลยก็ได้ว่ามันมีความสำคัญมากมายขนาดนี้ ว่าแล้วก็อย่ามัวเสียเวลา เราไปคำตอบกันเลยดีกว่าว่าข้อควรรู้ก่อนเริ่มทำการออกแบบบ้านภายในนั้นมีอะไรกันบ้าง
3 ข้อควรรู้ก่อนเริ่มทำการออกแบบบ้านภายใน
- ข้อควรรู้ก่อนเริ่มทำการออกแบบบ้านภายใน คือ การเลือกสไตล์ที่ชอบ สำหรับนักแต่งห้องมือใหม่ควรเริ่มจากสไตล์ที่ชอบ หาไอเดีย หาตัวอย่างจากอินเทอร์เน็ต หรือแหล่งข้อมูลอื่นๆ เพื่อว่างแผนคราวๆ ว่าเราควรจะจัดวางเฟอร์นิเจอร์ไว้ตำแหน่งไหน หรือปรับให้เข้ากับไลฟ์สไตล์เราได้อย่างไร เช่น หากเลี้ยงสัตว์ก็ควรเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากวัสดุที่ทนต่อรอยขีดข่วน และง่ายต่อการทำความสะอาด
- ข้อควรรู้ก่อนเริ่มทำการออกแบบบ้านภายใน คือ ตั้งงบประมาณ ข้อนี้เป็นข้อที่สำคัญไม่ว่าจะนักแต่งห้องมือใหม่หรือมือเก๋า การตั้งงบประมาณไว้นั้นสำคัญ เพื่อไม่ให้การเสียเงินของเรานั้นบานปลายออกไป ยกตัวอย่างเช่น ตั้งงบไว้ที่ 400,000 บาท ต้องการรีโนเวทห้องครัวตั้งแต่พื้นไปจนถึงฝ้าเพดาน หรือตั้งงบไว้สำหรับการบิ้วอินเฉพาะจุด ทาง Interior Designer จะทำการออกแบบ และเลือกใช้วัสดุให้สอดคล้องกับงบประมาณที่เราได้ตั้งไว้
- ข้อควรรู้ก่อนเริ่มทำการออกแบบบ้านภายใน คือ การเลือกผู้ผลิต และ การรับประกันหลังการขาย เรียกได้ว่าข้อนี้เป็นข้อที่สำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้ การเลือกผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ให้กับบ้านของเราควรคำนึงถึง ผู้ผลิตที่น่าเชื่อถือและได้มาตรฐาน มีประสบการณ์ทำงาน เพื่อให้เราได้เฟอร์นิเจอร์ที่มีมาตรฐาน ตรงตามความต้องการ และ เหมาะสมกับเงินที่เราเสียไป การบริการหลังการขายก็ต้องมีมาตราฐานด้วยเช่นกัน ในกรณีสินค้าชำรุด เช่น บานเลื่อนประตูตู้เสื้อผ้าบิ้วอินเสีย ก็สามารถใช้การประกันหลังการขาย ให้ช่างเข้ามาซ่อมได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม การเลือกใช้บริการออกแบบตกแต่งภายในที่ราคาถูกจนเกินไป อาจไม่ครอบคลุมถึงการรับประกัน
อย่างไรก็ตาม ข้อควรรู้ก่อนเริ่มทำการออกแบบบ้านภายในเหล่านี้อาจจะใช้ไม่ได้จริงๆ ในหน้างานของคุณ ฉะนั้น ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจทำอะไรลงไปเราขอให้คุณดูหน้างานเป็นหลัก เช่นในหัวข้อของการตั้งงบประมาณ พอถึงหน้างานจริงๆ คุณอาจจะไม่สามารถตั้งงบประมาณ หรือไม่สามารถทำให้อยู่ในงบประมาณที่คุณตั้งไว้เลยก็ได้ ซึ่งนั่นก็ไม่ผิดแต่อย่างใดนะ